6 พรรคแกนนำฝ่ายประชาธิปไตยที่เคยจับมือให้สัตยาบันร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล จากที่เคยได้เสียงรวมกันมากกว่า 250 เสียง
มาวันนี้ เหลือเสียงรวมกันแค่ 244 เสียง
พรรคเพื่อไทย = 136 เสียง (สส.เขต 136 เสียง)
พรรคอนาคตใหม่ = 80 เสียง (สส.เขต 30 + บัญชีรายชื่อ 50)
พรรคเสรีรวมไทย = 10 เสียง (บัญชีรายชื่อ 10 เสียง)
พรรคเศรษฐกิจใหม่ = 6 เสียง (บัญขีรายชื่อ 6 เสียง
พรรคประชาชาติ = 7 เสียง (สส.เขต 6 + บัญชีรายชื่อ 1)
พรรคเพื่อชาติ = 5 เสียง (บัญชีรายชื่อ 5 เสียง)
รวม 244 เสียง
คราวนี้สมใจฝ่ายสืบทอดอำนาจ มีความชอบธรรมจัดตั้งรัฐบาล
แต่ไม่รู้ว่าจะอยู่ไปได้นานสักกี่น้ำ กับรัฐบาล 256 เสียง ที่ต้องแบ่ง 3 เสียงไปเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร 1 เสียง และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรอีก 2 เสียง ทำให้ออกเสียงโหวตในการประชุมไม่ได้ เหลือเสียงที่จะโหวตได้แค่ 253 เสียง เวลาลงมติไม่ไว้วางใจนี่ ต้องห้ามป่วย ห้ามลา ห้ามตายกันเลยทีเดียว แม้จะอยู่ในห้องไอซียู ก็ต้องเข็นเตียงออกมาโหวตให้ได้
ผลจากการใช้สูตรคำนวณ สส.ของ กกต. ทำให้ 6 ขั้วพรรคฝ่ายประชาธิปไตยเหลือเสียงรวมกันไม่ถึง 250 เสียงแล้วครับ
มาวันนี้ เหลือเสียงรวมกันแค่ 244 เสียง
พรรคเพื่อไทย = 136 เสียง (สส.เขต 136 เสียง)
พรรคอนาคตใหม่ = 80 เสียง (สส.เขต 30 + บัญชีรายชื่อ 50)
พรรคเสรีรวมไทย = 10 เสียง (บัญชีรายชื่อ 10 เสียง)
พรรคเศรษฐกิจใหม่ = 6 เสียง (บัญขีรายชื่อ 6 เสียง
พรรคประชาชาติ = 7 เสียง (สส.เขต 6 + บัญชีรายชื่อ 1)
พรรคเพื่อชาติ = 5 เสียง (บัญชีรายชื่อ 5 เสียง)
รวม 244 เสียง
คราวนี้สมใจฝ่ายสืบทอดอำนาจ มีความชอบธรรมจัดตั้งรัฐบาล
แต่ไม่รู้ว่าจะอยู่ไปได้นานสักกี่น้ำ กับรัฐบาล 256 เสียง ที่ต้องแบ่ง 3 เสียงไปเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร 1 เสียง และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรอีก 2 เสียง ทำให้ออกเสียงโหวตในการประชุมไม่ได้ เหลือเสียงที่จะโหวตได้แค่ 253 เสียง เวลาลงมติไม่ไว้วางใจนี่ ต้องห้ามป่วย ห้ามลา ห้ามตายกันเลยทีเดียว แม้จะอยู่ในห้องไอซียู ก็ต้องเข็นเตียงออกมาโหวตให้ได้